เรียลลิตี้ ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ยาก

0
4986

บทความโดย กนกกาญจน์ ประจงแสงศรี / อรรณพ ดวงมณี
[email protected] / [email protected]

ที่ผ่านมาในช่วงเย็นของวันหยุดอย่างเสาร์อาทิตย์ ถือว่าเป็นเวลาทองของรายการประเภท เรียลลิตี้ และคอนเทสต์โชว์ และเมื่อมีการเปลี่ยนจากอนาล็อกทีวีมาเป็นดิจิตอลทีวีในปี 2014 ทำให้ผู้ชมมีทางเลือกในเรื่องของคอนเทนท์มากขึ้น เลยทำให้กระแสความนิยมในคอนเทนท์ประเภทนี้ลดลงไป ซึ่งทีมงาน Strategy & Innovation ของ Initiative ได้นำข้อมูลของเอซี นีลเส็น ที่สำรวจกลุ่มเป้าหมายทั้งชาย และหญิงทั่วประเทศอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปในการดูเรียลลิตี้ และคอนเทสต์โชว์ผ่านจอโทรทัศน์ในวันเสาร์ และอาทิตย์ตั้งแต่ 16.00 น. ถึง 19.00 น. เริ่มตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2016 มาให้ผู้อ่านได้ดูกันว่าเรียลลิตี้เก่า ๆ ยังคงได้รับความนิยมอยู่หรือไม่ และรายการเรียลลิตี้ใหม่ ๆ ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ชมกันขนาดไหน

31

32

เริ่มจากรายการ Thailand Got Talent ที่ปลุกกระแสการนำเรียลลิตี้ฟอร์แมตจากต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งนำมาออนแอร์ในช่วงตอนเย็นทางช่อง 3 เมื่อปี 2011 สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยไปได้ถึง 5.6 พอเข้าปี 2012 รายการ Thailand Got Talent ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมีเรตติ้งเฉลี่ยขยับขึ้นไปถึง 7.8 และเริ่มมี The Voice เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งรายการซึ่งทำเรตติ้งเฉลี่ยไปได้ถึง 5.7

ในปี 2013 ช่อง 3 มีรายการเรียลลิตี้ฟอร์แมตจากต่างประเทศใหม่ ๆ อย่าง Dance Your fat off หรือเต้นเปลี่ยนชีวิต, Thailand Dance Now ซึ่งทั้งสองรายการประเดิมเรตติ้งเฉลี่ยไป 3.5 และ 3.3 ส่วน Thailand Got Talent และ The Voice ได้รับความนิยมลดลงโดยมีเรตติ้งเฉลี่ย 4.8 กับ 6.5 ตามลำดับ ในขณะที่ช่อง 7 ก็เริ่มนำเรียลลิตี้เข้ามาด้วยเช่นกัน คือ Dancing with the star และรายการเรียลลิตี้สัญชาติไทยอย่าง The Comedian ซึ่งได้เรตติ้งเฉลี่ยไป 2.4 และ 3.3 ตามลำดับ

ปี 2014 นับได้ว่าเป็นปีทองของรายการเรียลลิตี้ เพราะเริ่มมีรายการใหม่ ๆ เกิดมากขึ้น อีกทั้งการแข่งขันเริ่มสูงขึ้นเพราะไม่ได้มีเพียงแค่ช่องอนาล็อกทีวีเท่านั้น แต่มีดิจิตอลทีวีเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งในปีนี้ รายการ Thailand Got Talent ได้เรตติ้งเฉลี่ยขึ้นไปถึง 5.5 ส่วน The Voice เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 รายการ Dance your fat off ก็ยังสามารถรักษาระดับเรตติ้งเฉลี่ยได้ใกล้เคียงเดิมคือ 3.2 แต่รายการ Thailand Dance Now ทางช่อง 3 กับรายการ Dancing with the Star ทางช่อง 7 กลับพับฐานไป แล้วมีรายการใหม่อย่าง Winner is เข้ามาแทนในช่อง 3 ที่เรียกเรตติ้งเฉลี่ยในปีแรกได้ถึง 4.4 และรายการใหม่ของช่อง 3 อย่าง The Face ก็เรียกเรตติ้งเฉลี่ยได้ 2.3 ในขณะที่รายการ The Comedian ทางช่อง 7 เรียกเรตติ้งเฉลี่ยได้ 2.6 ส่วนรายการใหม่อย่าง Martial Warrior กับ Keep your light shining Thailand ที่นำเสนอทางช่อง 7 ได้เรตติ้งเฉลี่ย 1.4 และ 2.3 ตามลำดับ ที่น่าสนใจคือ Workpoint TV ได้นำรายการเพลงอย่าง ไมค์ทองคำ มาออนแอร์ทางช่องดิจิตอลของตัวเองทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ 2.2

กระแสความนิยมในรายการประเภทเรียลลิตี้ช่วงเย็นวันหยุดเริ่มตกลงอย่างมากในปี 2015 อันเนื่องมาจากผู้บริโภคมีทางเลือกในการเสพคอนเทนท์ผ่านช่องดิจิตอลทีวีกันมากขึ้น ส่งผลให้รายการ Thailand Got Talent ที่เคยมีเรตติ้งเฉลี่ยสูงๆ กลับลดลงเหลือเพียง 3.3 รายการ The Voice ลดเหลือ 4.5 รายการ Dance your fat off ลดลงเช่นกันเหลือ 2.3 รายการ Winner is ลดเหลือ 2.6 และรายการ The Face ได้เรตติ้ง 2.2 มีเพียงรายการ ไมค์ทองคำ ทางช่อง Workpoint TV ที่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยได้สูงขึ้นเป็น 4.5 ซึ่งรายการนี้นับเป็นรายการที่สร้างเรตติ้งได้สูงสุดของ Workpoint TV อีกด้วย

อย่างไรก็ตามในปี 2015 ยังคงมีรายการเรียลลิตี้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเช่นรายการฟอร์แมตจากต่างประเทศ  Hidden Singer เสียงลับจับไมค์มาออนแอร์ทางช่อง 3 ได้เรตติ้งเฉลี่ยที่ 2.3 และรายการ Sing your face off ทางช่อง 7 ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ย 2.2 ส่วนรายการ The Comedian และ Keep your light shining Thailand ที่ออนแอร์ทางช่อง 7 ทั้งคู่ก็ปิดตัวลงไป

และล่าสุดในปี 2016 ด้วยการแข่งขันทางด้านคอนเทนท์ของเหล่าดิจิตอลทีวีอาจทำให้ความนิยมหรือเรตติ้งเฉลี่ยในรายการประเภทเรียลลิตี้โชว์ที่ออนแอร์ไปแล้วเริ่มลดน้อยถอยลง ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากรูปแบบ และความจำเจ ทางออกก็คือ พยายามสร้างความแปลกใหม่ให้กับรายการเช่น The Voice ที่มีการเปลี่ยนโค้ชใหม่หรือการหาฟอร์แมตใหม่ ๆ  เข้ามาเสริมอย่างเช่นล่าสุดที่ช่อง 3 HD ได้นำรายการ Labanda Thailand เพื่อค้นหาซุปเปอร์สตาร์บอยแบนด์ ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งสามารถสร้างกระแส และเรียกเรตติ้งไปได้ไม่น้อย และน่าจะช่วยให้กระแสของเรียลลิตี้ให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

จากข้อมูลทั้งหมดคงพอจะประเมินได้ว่า หากรายการเรียลลิตี้หรือคอนเทสต์โชว์ต้องการอยู่รอดในสมรภูมินี้ควรจะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบหรือเพิ่มลูกเล่นให้มีสีสัน และความบันเทิงมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มความสดใหม่ให้กับรายการ เพราะหากยังคงรูปแบบเดิมๆ อาจทำให้ความนิยมลดลงจนถูกคนดูเมินไปในทึ่สุด