สื่อยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง The New York Times เปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาสที่สองกับการเติบโตของ Digital ด้วยรายได้จากโฆษณาและยอดสมาชิกที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้จากค่าโฆษณาจากสิ่งพิมพ์
รายได้จากค่าโฆษณาจากทางฝั้ง Digital เพิ่มขึ้นมากถึง 23 % เป็น 55 ล้านดอลลาร์ซึ่งนับได้เป็น 42% จากรายได้จากค่าโฆษณาทั้งหมด ด้วยยอดสมาชิกที่สมัครรับข่าวสารบน Digital อย่างเดียวกว่า 93,000 คน และหากนับรวมยอดผู้สมัครทั้งหมดบน Digital ของ New York Times แล้วจะมีสมาชิกมากกว่า 2,300,000 คน
ในขณะเดียวกันรายได้จากสิ่งพิมพ์ก็ตกลงประมาณ 11% ในไตรมาสเดียวกัน อยู่ที่ 77 ล้านดอลลาร์ แต่ด้วยการเติบโตของ Digital ทำให้รายได้รวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 131 ล้านดอลลาร์ เป็น 132 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
“ผู้คนต้องการข่าวที่มีคุณภาพและการวิเคราะห์เชิงลึกมากขึ้นไม่ใช่แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่รวมไปถึงทั่วโลกด้วย เราเชื่อว่ามีคนมากมายพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อที่จะเข้าถึงการรายงานข่าวที่เต็มไปด้วยคุณภาพและนี่ก็คือกลยุทธ์หลักของเราและเป้าหมายของเราคือทำรายได้จาก Digital ให้ได้ถึง 800 ล้านดอลล่าร์ ในปี 2020”
Mark Thompson, the chief executive of The New York Times
ในขณะที่หลายๆคนกำลังดีใจกับตัวเลขรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการปลดตำแหน่งงานออก ซึ่งส่งผลให้บรรดาพนักงานบางส่วนได้ออกมาทำการประท้วงหน้าสำนักงานใหญ่ที่แมนฮัตตัน
ถึงแม้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในตำแหน่งที่มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆเพิ่มขึ้น ก็ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของห้องข่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดย มีการจ่ายค่าชดเชยมากกว่า 19 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าชดเชยในการปรับโครงสร้างในครั้งนี้
การปรับโครงสร้างนี้ยังส่งผลนักข่าวหลายคนเตรียมตัวที่จะย้ายสถานที่ทำงานใหม่ท่ามกลางความวุ่นวายของงานก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่เนื่องจากทาง บริษัทมีแผนการที่จะลดขนาดองค์กรและเตรียมปล่อยให้เช่าพื้นที่ของออฟฟิสบางส่วนอีกด้วย แต่ยังจะคงขนาดของห้องข่าวและกองบรรณาธิการเอาไว้เช่นเดิม
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือการเติบโตของผู้สมัครสมาชิกนอกสหรัฐอเมริกาที่มีมากกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วและมีสมาชิกมากกว่า 195 ประเทศทั่วโลก และนี่ยังถือเป็นครั้งแรกที่รายได้จากฝั่ง Digital เพิ่มขึ้นจนแซงสิ่งพิมพ์ โดยที่ฝั่ง Digital อยู่ที่ 83 ล้านดอลลาร์ ในณะที่สื่อพิมพ์อยู่ที่ 77 ล้านดอลลาร์
ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้แสดงให้เห็นถืงการปรับตัวที่พิสูจน์ได้ว่าถึอแม้ข่าวสารจะมาเร็วแค่ไหนแต่คนในยุคปัจจุบันก็ยังคงต้องการที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงมากกว่าความเร็วเพียงอย่างเดียว ในตอนนี้ที่บ้านเรารายได้ของช่อง TV และ Print กำลังตกลงอย่างน่าใจหายบางทีการทำข่าวที่ถูกต้องและแม่นยำยังคงเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ
Teeppipat Buamuenvai
Corporate Communications Manager
IPG Mediabrands Thailand