ข่าวเช้า ขายที่ความกระชับฉับไว

0
5701

บทความโดย กนกกาญจน์ ประจงแสงศรี / อรรณพ ดวงมณี
[email protected] / [email protected]

คนไทยสมัยนี้ตื่นตัวกันเรื่องข่าวสารกันมากขึ้น โดยเฉพาะข่าวภาคเช้าซึ่งหลายๆ บ้านตื่นนอนขึ้นมาพร้อมๆ กับการเปิดข่าวโทรทัศน์เพื่อเสพข่าวคราวความเคลื่อนไหวของข่าวสารบ้านเมืองกันมากยิ่งขึ้น และจากการเกิดดิจิตอลทีวีเพิ่มขึ้นอีกหลายช่องก็ดูเหมือนว่าจะมีการทุ่มทุนนำเสนอข่าวเพื่อแย่งชิงคนดูกันมากขึ้นด้วย ทีมงาน Strategy & Innovation ของ Initiative จะขอนำเรตติ้งของข่าวภาคเช้าของดิจิตอลทีวีแต่ละช่องมาให้ผู้อ่านได้รับทราบกัน

โดยทีมงานได้นำข้อมูลเรตติ้งจาก เอซี นีลเส็น ที่เก็บข้อมูลการดูรายการข่าวภาคเช้าเริ่ม 6 โมงเช้าของกลุ่มคนดูทั้งชาย และหญิงอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปทั่วประเทศตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2559 ซึ่งพบว่า รายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ช่อง 7 ขึ้นครองอันดับที่ 1 ได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 2.892 แซงหน้าเจ้าเดิมที่เคยครองแชมป์มานานอย่าง “เรื่องเล่าเช้านี้” ของช่อง 3 ที่ได้เฉลี่ย 2.682 เนื่องด้วยการนำเสนอเนื้อหาข่าวของช่อง 7 ที่กระชับฉับไว และครอบคลุมในทุกประเด็น ในขณะที่ข่าวช่อง 3 ยังคงเน้นเรื่องการเล่าข่าวที่เคยเป็นจุดเด่น และให้รายละเอียดในเนื้อข่าวแต่ละข่าวจนมากเกินไป จนทำให้เรตติ้งรายการประเภทเล่าข่าวเริ่มตก แต่เมื่อรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” จบลงเมื่อเวลา 7.30 น. เปลี่ยนเป็น “รายการสนามข่าวเจ็ดสี”  ซึ่งเป็นประเภทการรายงานข่าวคล้ายๆ กันก็ทำให้เรตติ้งข่าวเช้าของช่อง 7 ตกลงไปเป็น 2.145 ส่วนรายการข่าวเช้าที่มีเรตติ้งตามมาคือ ข่าวของช่อง 8 ‘คุยข่าวช่อง 8” 0.787 และช่อง 9 กับ “คุยขโมงข่าวเช้า” 0.303 ซึ่งมีการนำเสนอแนวข่าวชาวบ้านๆ ที่สั้นกระชับครอบคลุมข่าวทั่วประเทศในเวลาที่จำกัด

21

ส่วนรายการข่าวภาคหกโมงเช้าอื่นๆ ที่ได้เรตติ้งที่ค่อนข้างดีมีเวิร์คพ้อยท์ทีวี ที่นำเสนอ “ข่าวมื่อเช้า” ด้วยเรตติ้ง 0.128 และ “โมชั่นนิวส์”  ของ โมโน 29 ได้เรตติ้ง 0.104 ในขณะที่ช่องข่าวแท้ๆ อย่าง “เนชั่นทีวี” ได้เรตติ้งที่ 0.101 ซึ่งในแต่ละช่องส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอข่าว ไม่ได้เป็นการเล่าข่าวหรือเป็นการวิเคราะห์ข่าวแต่อย่างใด

22เป็นที่น่าสังเกตุว่า กลุ่มดิจิตอลทีวีช่องข่าวต่างๆ กลับไม่ติดอันดับต้นๆ เนื่องเพราะวิธีการนำเสนอข่าวที่เน้นการให้เนื้อหาที่ครบครันในแต่ละข่าวมากเกินไป หรือมีการวิเคราะห์ข่าวหรือให้ความสำคัญกับข่าวในข่าวหนึ่งๆ มากเกินไป ในขณะที่ผู้เสพข่าวกลับนิยมชมชอบเนื้อข่าวที่สั้นกระชับเนื่องเพราะเวลาที่มีจำกัดในแต่ละเช้า จึงต้องการข่าวที่ครอบคลุมไม่เยิ่นเย้อ จึงทำให้ช่องที่นำเสนอข่าวสั้นๆ กระชับๆ ติดเรตติ้งในระดับต้นๆ

จากข้อมูลคงพอจะเห็นแล้วว่า ในปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีพฤติกรรมในการเปิดรับข่าวสารจากช่องทางโทรทัศน์เพื่อรับฟังข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งลักษณะของข่าวที่ได้รับความนิยมก็คือ ข่าวที่สั้นกระชับ และครอบคลุมในทุกๆ ข่าวที่เป็นประเด็นในขณะนั้น และที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ไม่ได้เน้นตัวบุคคลอีกต่อไป ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางดีๆ ให้กับดิจิตอลทีวีที่อยากจะประสบผลสำเร็จในข่าวภาคเช้าก็ควรจะลองหาวิธีนำเสนอที่โดดเด่นเพื่อสร้างฐานผู้ชมให้เพิ่มขึ้นได้ไม่ยากนัก