บทความโดย กนกกาญจน์ ประจงแสงศรี / อรรณพ ดวงมณี
[email protected] / [email protected]
ในบทความฉบับก่อน ๆ เราได้เห็นกันแล้วว่า กีฬา เป็นหนึ่งในคอนเทนท์ที่ทำเรตติ้งได้สูงจนสามารถช่วยดึงเรตติ้งเฉลี่ยของดิจิตอลทีวีบางช่องให้ขยับขึ้นมาได้ คราวนี้ทีมงาน Strategy & Innovation ของ Initiative จะนำรายละเอียดช่องดิจิตอลทีวีแต่ละช่องมาให้ดูกันว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมามีคอนเทนท์อะไร หรือประเภทไหนที่คนดูนิยมจนสร้างเรตติ้งสูง ๆ สามารถช่วยดันเรตติ้งเฉลี่ยให้กับช่องดิจิตอลทีวีกันได้บ้าง เพื่อเป็นแนวทางการปรับตัวในเรื่องของการหาหรือการปรับคอนเทนท์สำหรับกลุ่มดิจิตอลทีวี
จากผลสำรวจการรับชมดิจิตอลทีวีของผู้บริโภคชาย และหญิงอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศเรียงลำดับตามความนิยมหรือเรตติ้งเฉลี่ยในเดือนเมษายน 2016 พบว่า ช่องที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงเป็นอันดับ 1 คือ ช่อง 7 โดยรายการที่มีเรตติ้งสูงสุดคือ ทอง 10 ซึ่งเป็นละครช่วงไพร์มไทม์ มีเรตติ้งสูงถึง 10.1 เรตติ้งรองลงมาก็ยังคงเป็นละครไพร์มไทม์เรื่อง ขุนกระทิง มีเรตติ้ง 7.8 เรตติ้งเฉลี่ยสูงเป็นอันดับ 2 คือ ช่อง 3 ที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นละครช่วงไพร์มไทม์เช่นกันเรื่อง เจ้าบ้านเจ้าเรือน ทำเรตติ้งได้ 6.7 รองมาก็ยังเป็นละครช่วงไพร์มไทม์เรื่อง ชาติพยัคฆ์ ทำเรตติ้งได้ 6.4 ส่วนเรตติ้งเฉลี่ยอันดับ 3 เป็นของ Workpoint TV ที่มีรายการแข่งขันร้องเพลง ไมค์ทองคำเด็ก ซึ่งทำเรตติ้งสูงสุดได้ 7.3 อันดับรองลงมาเป็นไมค์ทองคำปี 4 ได้เรตติ้ง 5.2 เป็นที่สังเกตุว่าถึงแม้ Workpoint TV จะมีรายการที่ทำเรตติ้งได้สูงหากเมื่อนำรายการอื่น ๆ ที่เรตติ้งต่ำมาก ๆ มาหารเฉลี่ยก็จะฉุดเรตติ้งเฉลี่ยให้ต่ำลงได้ เช่นเดียวกับช่อง 8 ที่มี 8 แม๊กซ์มวยไทย เป็นรายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดได้ 4.0 เรตติ้งรองลงมาเป็นแชมเปี้ยนมวยไทยตัดเชือก ได้ 2.9 แต่เมื่อหารค่าเฉลี่ยเรตติ้งในทุก ๆ รายการก็ยังต่ำกว่าช่อง Mono29 ที่มีภาพยนตร์ต่างประเทศของบล็อคบัสเตอร์เป็นตัวชูโรงทำเรตติ้งสูงสุดได้ 2.0 เรตติ้งอันดับรองลงมาคือ ฮอทมูฟวี่ ที่มีเรตติ้ง 1.3
มาถึงอันดับ 6 อย่าง Channel One มี ศึกวันดวลเพลง เป็นรายการสร้างเรตติ้งสูงสุดของช่องด้วยตัวเลข 2.7 รองลงมาคือ ข่าวเด่นก่อนละคร ได้เรตติ้งที่ 2.3 ส่วนช่อง 3 SD ได้ศึกไทยไฟท์มาช่วยสร้างเรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 3.3 ตามมาด้วยละครรีรัน คิวปิค กับเรตติ้ง 0.9 สำหรับ True4U ได้ศึกแบดมินตันสิงคโปร์โอเพ่นมาช่วยสร้างเรตติ้งสูงสุดที่ 1.1 ในขณะที่การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกที่เป็นรายการประจำทำเรตติ้งได้ที่ 1.1 Thairath TV ได้การถ่ายทอดสดการจับผลสลากกินแบ่งมาทำเรตติ้งได้สูงสุดที่ 0.8 ส่วนรายการประจำที่ทำเรตติ้งได้ดีก็คือ ไทยรัฐนิวส์โชว์ ด้วยเรตติ้ง 0.6 และ Channel 9 มี วันนี้ที่รอคอย มาสร้างเรตติ้งสูงสุดให้ตลอดที่ 0.8 รายการที่ทำเรตติ้งตามมาคือ แฟ้มสืบสวน ด้วยเรตติ้งที่ 0.5 ซึ่งการมีรายการประจำที่สามารถทำเรตติ้งได้ทำให้อันดับในกลุ่มดิจิตอลทีวีค่อนข้างจะคงที่
อันดับที่ 11 คือ Now26 ที่หาสารคดียอดนิยมอย่าง America Greatest Animals มาช่วยสร้างเรตติ้งสูงสุดได้ 1.1 ตามมาด้วย Wild Africa ที่ได้เรตติ้งที่ 0.9 มาช่วยฉุดค่าเฉลี่ยให้สูงขึ้นได้ ส่วน GMM25 มีละคร Club Friday เป็นคอนเทนท์แม่เหล็กดันเรตติ้งสูงถึง 1.9 ตามด้วย ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ กับเรตติ้ง 0.6 ส่วนช่อง 3 Family นำละครเกาหลี บันทึกรักคิมจูซอน มาเป็นตัวสร้างเรตติ้งที่ 0.5 และองค์หญิงกำมะลอ มาเป็นอันดับสองของช่องที่ 0.4 ในขณะที่ PPTV เน้นคอนเท้นท์ทางด้านกีฬาอย่างพรีเมียร์ลีก และบุนเดสสิก้าที่มีเรตติ้ง 0.7 มาดันให้อันดับในกลุ่มดิจิตอลทีวีสูงขึ้น ซึ่งต้องตามดูว่าเมื่อหมดฤดูกาลการแข่งขันฟุตบอลแล้วเรตติ้งจะตกลงมากน้อยอย่างไร และ PPTV เองจะหาคอนเทนท์ประเภทไหนมาช่วยพยุงให้เรตติ้งเฉลี่ยคงที่อยู่ได้ ต่างจาก Amarin TV ที่มีรายการ ทุบโต๊ะข่าว เป็นรายการหลักที่ออนแอร์ประจำมาสร้างเรตติ้ง 0.6 ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ในระดับคงที่ ซึ่งรายการที่ทำเรตติ้งได้เป็นอันดับสองของช่อง Amarin TV คือ สตาร์เบอร์รี่ ที่มีเรตติ้ง 0.2
ดิจิตอลทีวีอันดับ 16 อย่าง Thai PBS ได้ ข่าวค่ำ และท่องโลกกว้าง มาสร้างเรตติ้งสูงสุดที่ 0.3 อันดับต่อมาคือ Nation TV มี ข่าวข้นคนเนชั่น และ ลายกนก เป็นรายการชูโรงด้วยเรตติ้งที่ 0.3 เช่นกัน ส่วน Spring News ได้อานิสงส์ของการถ่ายทอดผลสลากกินแบ่งมาช่วยสร้างเรตติ้งได้ถึง 0.8 ตามมาด้วยปรากฏการณ์ข่าวจริงกับเรตติ้ง 0.2 ในขณะที่ช่อง 5 ถึงแม้จะมีตลาดสดสนามเป้าที่ทำเรตติ้งได้ 1.0 รายการท่องเที่ยว หลงรักยิ้ม ทำเรตติ้งมาเป็นอันดับ 2 ที่ 0.5 แต่รายการอื่นๆ ของช่องก็ฉุดให้เรตติ้งตกลงอย่างน่าตกใจ และขอตบท้ายกับอันดับที่ 20 คือ New) TV ที่มี ข่าวใหม่ และสารคดีสำรวจโลก เป็นตัวสร้างเรตติ้งได้ดีที่สุดที่ 0.2 เท่า ๆ กัน
การนำรายละเอียดเรื่องข้อมูลเรตติ้งรายการต่าง ๆ มาให้อ่านในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มดิจิตอลทีวี ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นแนวทางในการปรับตัวในเรื่องของการหาคอนเทนท์หรือปรับคอนเทนท์ทึ่มีอยู่ให้ถูกคอคนไทยมากยิ่งขึ้น
