“ฟุตบอลไทย” ปลุกสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งแบบไทยๆ

0
6107

บทความโดย ณัฐพล เลิศกิจจานนท์ : Senior Strategist มีเดียเอเยนซี่ UM ในเครือ IPG Mediabrands

นาทีนี้ กระแสฟุตบอลไทยฟีเวอร์นั้นแรงขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่ทีมชาติไทยทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมตั้งแต่การแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ต่อด้วย ซีเกมส์ และปัจจุบันสามารถตีตั๋วเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายของเอเชียเพื่อคัดเลือกไปฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้รายการที่เกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอลในช่องทางต่างๆ นั้นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และเมื่อจำนวนผู้ชมมากขึ้น สื่อโฆษณาต่างๆ ก็ให้การสนับสนุนเพิ่มมากตามไปด้วย
จากผลสำรวจจำนวนผู้รับชมโทรทัศน์หรือ TV Rating จาก Nielsen พบว่า ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลช่วงสองปีนี้ มีเรตติ้งเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งยังไม่นับรวมถึงจำนวนผู้ชมยุคใหม่ที่ชมผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น YouTube Livestreaming ที่โดยเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น และแน่นอนว่าเมื่อมีคนดูมากขึ้น เหล่าบรรดาโฆษณาของแบรนด์สินค้าต่างๆ ก็ต่างแย่งกันจับจองพื้นที่สื่อเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นว่า โดยปกติระหว่างการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลจะมีโฆษณาหลักอยู่ในช่วงพักครึ่งการแข่งขัน แต่สิ่งที่ต่างไปจากเดิมคือ ได้เพิ่มช่วงวิเคราะห์ก่อน และหลังเกมที่ทำให้เนื้อรายการเพิ่มขึ้น จึงช่วยให้มีเวลา และช่องทางในการโฆษณาเพิ่มตาม หรือแม้กระทั่งในสนามต่างประเทศที่บ่อยครั้งเราได้เห็นแบรนด์สินค้าไทยไปปรากฏอยู่ข้างสนาม
ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากการเติบโตของวงการกีฬาก็คือ ได้ช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้โตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับในต่างประเทศในอดีต แต่ดีกว่าตรงที่เราได้สร้างพื้นฐานที่แข็งแรงด้วยความสามารถของคนไทยเองขึ้นมาแล้ว
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ในปัจจุบันคือ กระแสความนิยมในตัวบุคคล ที่ตอนนี้ทั้งตัวนักฟุตบอล และหัวหน้าผู้ฝึกสอน ก็ต่างเป็น Magnet หรือ Key Influencer ให้ทั้งวงการกีฬาและวงการสื่อโฆษณาเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น เจ ชนาธิป ต้น นฤบดินทร์ โค้ชซิโก้ และอีกหลายต่อหลายคน ที่ทุกวันนี้เราจะได้เห็นหน้าตาเขาเหล่านี้ช่วยโปรโมทแบรนด์สินค้าอยู่ตามสื่อทีวี บิลบอร์ด รถสาธารณะ หรือบนโลกออนไลน์ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้น ทำให้ผมอดนึกถึงเดวิด เบคแฮมในอดีตไปไม่ได้ ที่นอกจากเรื่องกีฬาแล้ว ยังมีความเป็นซูเปอร์สตาร์ในตัวเองอยู่เสมอ
โอกาสอีกอย่างที่เกิดขึ้นคือ แบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ไม่ได้มีงบประมาณมากนักหรือแบรนด์ไทยขนาดเล็กก็สามารถเข้าไปมีส่วนรวมกับ Sport Marketing ได้เช่นกัน เพราะด้วยความที่ทั้งตัวสื่อที่เป็นของไทย และ Key Influencer ที่เป็นคนไทย ทำให้มีความเกี่ยวข้อง และผูกพันกับแบรนด์ได้มากกว่าฟุตบอลต่างชาติในอดีต ซึ่งที่ผ่านมามักจะผูกติดกับฟุตบอลลีกอังกฤษ ลีกยุโรป หรือสเปน เท่านั้น แต่ในขณะนี้ทีมฟุตบอลไทยก็มีผู้เล่นที่หลากหลาย และมีชื่อเสียงมากมาย ทำให้แบรนด์สินค้ามีโอกาสเลือกใช้ตามโอกาสที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องใช้งบสูงๆ อีกต่อไป
ตอนนี้ความนิยมของฟุตบอลไทย เกิดจากทีมผู้เล่น ผู้ฝึกสอน แฟนบอลสัญชาติไทยอย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงพลังสามัคคีที่เริ่มจากการกีฬา และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าชื่นชมและเก็บไว้เป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังต่อไป