หน้าแรกMediaDrama คืออะไร? ทำไมคนไทยถึงติดทั้งเมือง? บทสัมภาษณ์พิเศษกับ ดุจดาว วัฒนปกรณ์

Drama คืออะไร? ทำไมคนไทยถึงติดทั้งเมือง? บทสัมภาษณ์พิเศษกับ ดุจดาว วัฒนปกรณ์

จากความสำเร็จของงาน Thought Leadership 2017: Contentology ที่ทาง IPG Mediabrands Thailand ได้จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาโดยในได้หยิบยก 4 Content หลักที่เป็นที่นิยมสูงสุดมานำเสนอ คือ “ดราม่า กีฬา อาหาร และ ดนตรี” (Drama, Sports, Food & Music) มาเจาะลึกในหลายๆแง่มุม

เพื่อเป็นการต่อยอดและนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญ เราได้โอกาสสัมภาษณ์ คุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ หญิงสาวผู้มากความสามารถโดยเฉพาะในเรื่องของการละคร โดยเธอได้ฝากผลงานไว้มากมายทั้งในฐานะ ผู้กำกับ และ นักแสดง และพิธีกร และอีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือ การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารให้กับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่เธอจะมาแลกเปลี่ยนทัศนคติกับพวกเราเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไทย กับ Drama

ช่วยแนะนำตัวเองหน่อย
ชื่อ ดุจดาว วัฒนปกรณ์ค่ะ เป็นนักการละครอยู่กลุ่ม B-Floor Theatre มี Background เป็นนักจิตบำบัดด้วยศิลปะการเคลื่อนไหว ปัจจุบันเป็นเหมือนผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารให้กับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ หรือ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จํากัด ( มหาชน )

รูปแบบการเล่าเรื่องของละครในยุคปัจจุบันมีหลากหลายมากขึ้นเกิดจากสาเหตุอะไร?

เหตุผลที่มีอะไรใหม่ๆเพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่คิดทุกอย่างเป็นเรื่องเสมอไปซึ่งวิธีคิดของคนไม่ได้เรียงเป็น Story เป็นเรื่องราวมาคนที่ผลิตรู้สึกว่าอยากจะสะท้อนไม่ใช่แค่สะท้อนเรื่องที่จะเล่าแต่อยากสะท้อนวิธีคิดของตัวเองออกมาด้วย

คนบางคนอาจจะกล้า Speak Out ไม่ใช่แค่อยากที่จะพูดอะไรแต่อยากจะให้คนฟังได้รู้ด้วยว่าเขามองเห็นเรื่องนั้นอย่างไร ก็เลยสะท้อนวิธีคิดที่ไม่ได้เป็นเฉพาะเรื่องที่จะเล่าแล้วสำหรับคนดูก็เบื่อเหมือนกันเพราะสูตรเดิมเป็นเรื่องราวแบบขึ้นตอน สูตรนั้นมันเกิดขึ้นในสมัยไหนแล้วถ้าสมัยนี้ในสูตรเดิมคนยังจะเหมือนกันอยู่ไหมทุกวันนี้คนก็ต่างกันไปแล้ว

สูตรเดิมอาจจะย้อนกลับมาตอนคนโหยหา แต่ตอนนี้คนต้องการฉีกอยากรู้ว่าเรื่องนี้มองมุมอื่นอะไรได้บ้าง คิดยังไงได้อีกบ้าง สะท้อนอะไรได้อีกบ้าง เรื่องของการแชร์มุมมองซึ่งกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนเสพอยากได้ คือคนอาจจะเคยเห็นมาหนึ่งอย่าง แต่ถ้าจะพูดเรื่องนี้ซ้ำมาพูดแบบเดิมๆมันอาจจะน่ารำคาญเขาเลยอยากรู้ว่าคิดแบบนี้หรออาจจะเป็นการตอบสนองความจำเจซ้ำซากติดกรอบที่เคยมีมา

13607050_10154401645393689_3227095052761051503_n

“เราอยู่ในสังคมที่ไม่ได้คุยกันอย่างตรงไปตรงมาและบางทีเราไม่ได้คุยกันเรื่องชีวิตกันอย่างตรงไปตรงมานี่เองทำให้การที่เราดูละครมันกลายเป็นการได้ปลดปล่อย”

Content ประเภท drama และพฤติกรรมการเสพละครของคนไทยเป็นอย่างไร?
ในตัวของ Drama ตัวจริงๆของมันเองจะมีฟังก์ชั่นหลายอย่างอยู่แล้วในสังคม เพียงแต่ว่าเป็นที่สงสัยว่าทำไมคนในประเทศเราถึงติดดราม่าติดละครหลังข่าว ติดละครตอนเย็น ฯลฯ เพราะว่าบางทีเราอยู่ในสังคมที่ไม่ได้คุยกันอย่างตรงไปตรงมาและบางทีเราไม่ได้คุยกันเรื่องชีวิตกันอย่างตรงไปตรงมานี่เองทำให้การที่เราดูละครมันกลายเป็นการได้ปลดปล่อย มีความโกรธ ความอิจฉา ความเหนื่อยล้าเวลาที่เราท้อแท้ หรือความสุขที่ในชีวิตเราไม่ได้เรียนรู้ที่จะพูดถึงเรื่องอารมณ์ความรู้สึกแบบตรงไปตรงมาเราก็ยังไปเชื่อมโยงกับในละครได้ และความเป็นละครธรรมชาติของเขาคือมันจะมี Conflict มันจะมี Story จะมีช่วงที่มี Conflict ต่างๆ

การที่ได้ลุ้น Conflict พวกนั้นมันทำให้เรามีความสุขว่ามันมีที่คลี่คลายเหมือนได้ระบาย มันก็เหมือนเป็นทางออกมีการเยียวยาเบาๆ เพราะมีการเข้าถึงตัวเราเอง บางทีเรามี Conflict ในครอบครัวนั่งดูทีวีด้วยกันไม่คุยกันเรื่อง Conflict เดียวกันทำไมเราถึงไม่มานั่งคุยกันในเรื่องเดียวกันว่าทำอะไรกันบ้างมันเลยมีฟังก์ชั่นตรงนี้ไปเราก็ได้ระบายคลายเครียดไป

14680785_10154712117103689_6461963834599907319_n

ในมุมมองของละครตอนนี้ไม่ใช่แค่ Drama ในตัวละครที่อยู่ในโทรทัศน์ – วิทยุ ที่คนชอบเสพตอนนี้คนเริ่มมี Drama กันเองในคำว่า Drama จะเป็นคำแสลงทำไมถึงมี Story ในชีวิตจริงในมุมมองส่วนตัวไม่แน่ใจว่ามาพร้อมๆกับกระแสของออนไลน์ ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของ Content ได้เองทุกคนสามารถ Report ทุกอย่างเป็นคนเขียนบท – เขียนข่าวได้เองแล้วเรื่องการทำ Story หรือการปั้น Conflict มีอยู่แล้วบนโลกใบนี้

เราก็เลยเอาอันนี้ไปจับไปทำเฟรมให้มันดูเป็นเรื่อง Drama ขึ้นก็เลยออกมาดูเหมือนละครแล้วเขาก็ได้เราเองได้ด้วย ดาวว่าทั้งหมดนี้ก็มาจากโลกออนไลน์และทำให้คนที่ได้เขียนรู้สึกว่ามีอำนาจอยู่ในมืออยู่ในสังคมพอประมาณ เพราะเดิมเราเป็นผู้เสพเป็นผู้รับอย่างเดียวแต่คราวนี้เราเป็นผู้เขียนได้เราเป็นผู้ปั่นกระแสโซเชียลก็เลยเกิดการ Enjoy กันอย่างมากๆในตอนนี้เลยทำให้รู้สึกว่าตอนนี้ทำไม Drama ถึงเต็มเมืองแบบนี้

10574306_10153852602388760_8456899716929881551_n

“สิ่งที่เป็นห่วงมากก็คือคนในยุคปัจจุบัน คืออ่านและนึกว่านี่คือ Content เริ่มแยกไม่ออกว่านั่นคือคือแค่มุมองไม่ใช่ความจริง”

พฤติกรรมการเสพสื่อบนโลก Online มีผลกระทบต่อมนุษย์อย่างไรบ้าง?
พฤติกรรมการเสพสื่อก็เปลี่ยนไปจากเดิมที่เรารู้ว่าสื่อเป็นโทรทัศน์เป็นหนังสือแมกกาซีน หนังสือพิมพ์ ซึ่งกลายเป็นสื่อ Online ที่ทุกคนสามารถเขียน Content ได้เองแล้วก็อยู่ใกล้ตัวมากพวก Online ไม่ได้เป็นแค่ความรู้แต่เป็นที่ที่ทำให้สบายใจ เช่น การหยิบอะไรขึ้นมาเปิดอ่านเราก็จะเปิดผ่านๆไปซึ่งเราซึม Attitude คน ซึมวิธีคิดแบบนั้นคนบางส่วนก็จะขยี้ Content บางอย่างซึ่งก็แค่อยากที่จะระบายอารมณ์ระบายมุมมองออกมา

บางครั้งเราไม่มีสติเรารู้ไม่ทันเราก็จะซึมการมองโลกแบบนั้นไปและในบางทีในเรื่องของ Bubble Filter ถ้าเราไปพึ่งพาแค่ Facebook , Instagram ที่เราเสพแบบนี้ข่าวก็จะวนมาแค่ที่เรา เราก็อยู่กับ Bubble ก้อนใหญ่มากมันมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราจะคิดว่าไม่เคยมีอยู่เลยซึ่งมันไม่จริง

dao dao

สิ่งที่เป็นห่วงมากก็คือคนในยุคปัจจุบัน คืออ่านและนึกว่านี่คือ Content เริ่มแยกไม่ออกว่านั่นคือคือแค่มุมองไม่ใช่ความจริงหรือบางที่นี่แค่ความเห็นซึ่งนั่นอาจจะไม่ใช่ความจริงในคำว่า “อาจจะ” ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะเป็นความเห็นไปหมดแต่ การคิดวิเคราะห์แยกแยะแตกให้ได้ว่า Status หรือคอลัมน์ที่เขาเขียนและ Public ออกมานั่นคือข้อคิดเห็น

ซึ่งความคิดเห็นจะมีหลากหลายและขัดแย้งอะไรก็ได้และนี่คือมุมมอง ซึ่งแน่นอนอาจจะต้องมีไม่เหมือนกันแต่นี่คือความจริงซึ่งเราจะรู้ได้ไงว่านี่คือความจริง คราวนี้ทุกคนเริ่มเชื่อไปหมดแล้วว่า ฉันเชื่อคนนี้เพราะเขามีรูปร่างที่น่าเชื่อถือซึ่งเดี๋ยวนี้วัดกันไม่ได้เพราะใครๆก็ลง Online เป็นใครสักคนได้การเห็นเขาบ่อยไม่ได้แปลว่าเขาน่าเชื่อถือหรือแม้ว่าเราคิดว่าคนนี้ต้องน่าเชื่อถือสุดแต่เขาพูดอะไรมาเราก็ต้องไปเช็คอีกทีว่านี่คือความจริงหรือเปล่า?

12552515_10153942687788689_7841817849631226723_n

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไทยกับการเสพ Content ประเภท Drama ที่ให้แง่คิดดีๆมากเลยนะครับและยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในการใช้ Social Media ที่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับผู้ใช้

ถ้าหากท่านสนใจและอยากติดตามผลงานของ คุณดุจดาว สามารถไปติดตามกันได้ที่ http://www.bfloortheatre.com/ ได้เลยนะครับ

และสำหรับท่านใดที่ต้องการ Presentation งานวิจัย Contentology จาก งาน Thought Leadership 2017 ที่ทาง IPG Mediabrands Thailand ได้จัดขึ้นสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ
http://ipgconnectstg.wpengine.com/th/contentology/

 

15731995_10154802680482207_2808887760603311513_o
Teeppipat Buamuenvai
Corporate Communications Manager
IPG Mediabrands Thailand

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments