ใช้ Social Media อย่างไรให้ห่างไกลความโสด?

Share This Post

“ก็วันๆทำแต่งาน ไม่ได้มีเวลาเจอใคร แบบนี้ชั้นจะไปมีแฟนได้ยังไงล่ะ”

เพื่อนคนหนึ่งบอกประโยคนี้กับผม ในบทสนทนาขณะทานมื้อเย็นหลังเลิกงานด้วยกัน
เพื่อนของผมคนนี้ทำงานด้านการตลาดออนไลน์อยู่ที่บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงเก่ง ขยัน แถมหน้าตาก็น่ารักใช้ได้ ถ้าใครมีเธอเป็นแฟน ก็สามารถควงไปอวดเพื่อนให้อิจฉาเล่นได้สบายๆ
แต่น่าแปลกที่วาเลนไทน์ปี้นี้ เธอก็ยังโสดอยู่เหมือนเดิม
“ไม่รู้จะไปหาคนคุยที่ไหน เจอแต่คนหน้าเดิมๆที่ทำงานก็น่าเบื่อ” เธอบอก

จะว่าไปแล้ว ชีวิตประจำวันของคนเมือง ที่ตื่นเช้ามาต้องรีบเข้าออฟฟิศ ทำงาน ตอนกลางคืนเลิกงาน กลับบ้าน นอน แล้ววนลูปใหม่ เป็น Routine อยู่อย่างนี้ ก็ทำให้เราได้เจอแต่คนเดิมๆจริงๆนั่นแหละ ส่วนใครที่โสด แต่พักอาศัยอยู่กับครอบครัว หรือมีเพื่อนฝูงล้อมรอบ อย่างน้อยก็ยังสามารถไปเที่ยวหรือนัดเจอกันให้พอคลายความเบื่อลงได้บ้าง

pexels-photo-765228

แต่เท่าที่ผมได้สัมผัสและพบเจอมา คนโสดผู้ใช้ชีวิตตามลำพังแบบเหงาๆ ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนแห่งนี้ ก็มีเยอะอยู่เหมือนกัน และบางครั้งความรู้สึกจากที่แค่เหงาเฉยๆ อาจกลายเป็นความรู้สึก “โดดเดี่ยวและอ้างว้าง” ซึ่งนำไปสู่อาการซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว
แต่ยังดีที่ว่า ถึงเราจะเหงากันสักเท่าไหร่ โลกใบนี้ก็ไม่เคยหยุดหมุน พอพฤติกรรมของคนในปัจจุบันเปลี่ยนไป เทคโนโลยีและสื่อก็เข้ามาช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ให้เราได้พูดคุยกัน และทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ แม้ว่าในชีวิตจริงเราอาจจะไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลยก็ตาม

ถูกแล้วครับ ผมกำลังพูดถึง Social Media

ใน 1 วันของคนไทย เราใช้เวลาอยู่กับ Social Media เฉลี่ยกันคนละ 3 ชั่วโมงโดยประมาณ (ซึ่งอาจมากกว่านั้นสำหรับบางคน) และยิ่งเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ การใช้ Social Media จึงสะดวกง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเวลาตื่นนอน อยู่บนรถไฟฟ้าไปทำงาน พักเที่ยง ระหว่างประชุม หรือแม้กระทั่งตอนจะนอนแล้วหลายๆคนก็ยังไถหน้าจอมือถืออัพเดต Social กันอยู่เลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้น Facebook ซึ่งเป็น Social Media Platform ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของคนไทย

“Bring the world closer together” นี่คือ Mission ของ Facebook ที่ซีอีโออย่าง Mark Zuckerberg ได้กล่าวไว้เมื่อกลางปีที่แล้ว เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความตั้งใจของ Facebook ที่จะสร้างชุมชนออนไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ ก็สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ ผ่านวิธีการแสนง่ายแค่กด Add Friend ทีนี้ไม่ว่าจะเพื่อนสมัยเรียน คนรู้จักที่เคยทำงานด้วย หรือคนในครอบครัวก็สามารถ connect กันได้หมด

pexels-photo

อย่างไรก็ตาม Facebook ไม่ได้ถูกใช้แค่เชื่อมต่อกับคนที่รู้จักอย่างเดียว เพราะบ่อยครั้งที่เราใช้ Facebook เพื่อ “ส่อง” คนที่เราให้ความสนใจ (ทั้งประเภทที่อยากรู้จักและไม่อยากรู้จักนั่นแหละ) โดยคนๆนั้นอาจจะเป็นเพื่อนของเพื่อนเราอีกที หรือเป็นคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเราในทางไหนเลย เช่น น้องฝึกงานแผนกอื่นที่เพิ่งเข้ามาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยการเอาชื่อน้องเค้าไป search หาใน Facebook เพราะอยากรู้ว่าที่บ้านเลี้ยงดูมายังไงถึงน่ารักและหมวยได้ขนาดนี้ เป็นต้น

IMG_1969

ส่วนคนโสดที่มาส่องเหยื่อ เมื่อเจอคนที่ดูแล้วน่าสนใจ โปรไฟล์ดีตรงสเปค แต่ถ้าไม่มี Mutual Friends อยู่ๆจะกด Add ไปคุยเลยมันก็คงไม่ใช่ ดังนั้นจึงได้มีการจัดตั้ง Community สำหรับหาคู่บน Facebook ขึ้นมา ให้รู้ว่าคุณไม่ได้โสดและเหงาอย่างเดียวดาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Group สำหรับคนโสดที่อาศัยอยู่ในแต่ละจังหวัด รวมไปถึงแฟนเพจต่างๆ อย่างเพจ “แม่สื่อแม่ชัก” ที่เปรียบเสมือนแหล่งรวมคนโสดตัวท็อประดับ Hi-end หรือจะเป็นเพจ “ขายเพื่อน” ที่มีคนโสดหน้าตาดีๆ โปรไฟล์เจ๋งๆ มาให้เลือกพร้อม Caption ที่บรรยายคุณสมบัติของแต่ละคนได้ถึงพริกถึงขิง

เอาเป็นว่าถูกใจคนไหน คุณก็สามารถคอมเม้นท์ทิ้งไว้ หรือจะตามไป Add Friend ก็เอาที่สะดวก ส่วนบางคนที่อยากวัดใจก็สามารถใช้ฟังก์ชั่น “Hello” จาก Facebook กดโบกมือไปเลย ซึ่งถ้าอีกฝ่ายสนใจเราเหมือนกันก็จะ Wave back กลับมา แล้วทั้งคู่ก็จะสามารถ Chat คุยกันผ่าน Facebook Messenger ได้ทันที! ส่วนจะลงเอยยังไงก็ขึ้นอยู่กับการคุยแล้ว เพราะ Facebook เค้าเป็นแค่พื้นที่สื่อกลางให้คนมาพบกันเฉยๆ

โดยนอกจาก Facebook ที่ถูกนำมาใช้สำหรับคนโสดในการหาเพื่อนคุยแล้ว ยังมี Social Media Application ต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์นี้ อย่าง WeChat ที่แม้จะมีผู้ใช้งานไม่มากเท่า Facebook แต่ด้วยฟังก์ชั่นที่สามารถค้นหาคู่แชทจาก Area ใกล้เคียงได้ ทำให้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากหาเพื่อนคุยในพื้นที่ใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงแอพหาคู่โดยเฉพาะอย่าง Tinder กับกิมมิคอย่างการที่ผู้ใช้ทั้งสองคนต้อง “Match” กันก่อนถึงจะคุยกันได้ พร้อมกับฟังก์ชั่นค้นหาคู่แชทใน Area ใกล้เคียงเช่นเดียวกับ WeChat ทำให้ Tinder กลายเป็นที่นิยมในหมู่คนโสด (และไม่โสด) ได้อย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางฝั่งแบรนด์ต่างๆก็ได้มีการทำแคมเปญเพื่อเอาใจคนโสดมากขึ้นอีกด้วย อย่างเช่น Taobao ที่ได้มีการใช้เทคโนโลยี VR จำลองแฟนในแบบที่ผู้ใช้ต้องการขึ้นมา แล้วทำกิจกรรมต่างร่วมกันเช่นทำอาหารให้ทาน พูดคุยกัน แบบ 180 องศา หรือซุปเปอร์มาเก็ต Tesco ที่พาคนโสดมาช้อปปิ้ง แล้วจับคู่เดทกันโดยเลือกจากของที่แต่ละคนเลือกหยิบใส่ตะกร้า

จากที่ผมกล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ด้วยเทคโนโลยีและ Feature ต่างๆของสื่อ Social Media ในปัจจุบัน ทำให้คนเราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกง่ายดายมากขึ้น ทุกคนสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้แม้ไม่รู้จักกัน ยิ่งไปกว่านั้น Social Media ยังสามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาคนรู้ใจ สำหรับคนโสดที่ไม่ค่อยจะมีเวลาอย่างเพื่อนของผมอีกด้วย

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า Social Media ก็ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดสำหรับคนโสดเสมอไป เพราะสุดท้ายแล้ว Social Media เป็นเพียงตัวช่วยให้คนสามารถมาพูดคุยกันเท่านั้น แม้เราจะไม่ได้มีเวลามากนักในแต่ละวัน แต่ผมเชื่อว่าเราก็ยังสามารถเจอกับคนใหม่ๆได้อยู่โดยไม่ต้องพึ่ง Social เช่น เวลาพักลงไปกินข้าว หรือแม้แต่เวลาขึ้นรถกลับบ้าน คนทุกคนสามารถทำความรู้จักกันได้ในชีวิตจริง โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้จักที่จะลองเปิดใจเข้าหากัน และสำหรับคนโสดทั้งหลาย ไม่แน่นะครับว่าถ้าคุณลองเปิดใจดูสักครั้ง วาเลนไทน์นี้คุณอาจพบกับคนพิเศษที่อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดก็ได้

13925627_10154488364594312_8270087143147414331_o
Jumpol Likitawong

Social Media Manager
Ensemble Thailand

spot_img

Related Posts