“วิทยาศาสตร์ทางข้อมูล”เส้นทางสู่ความสำเร็จ – จากกีฬาสู่ธุรกิจ

Share This Post

สมัยนี้ “วิทยาศาสตร์ทางข้อมูล” (Data Science)ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายๆวงการไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจ การตลาด การเมือง มีเดีย ฯลฯซึ่งหลาย ๆ องค์กรได้เริ่มนำมาใช้เพื่อสร้างความแตกต่าง และแข็งแกร่งกันมากยิ่งขึ้น หากยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ก็คือ วงการกีฬาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ฟุตบอล” ซึ่งได้ใช้วิทยาศาสตร์ทางข้อมูลเข้ามาประยุกต์ และนำมาวิเคราะห์ใช้ทั้งในแง่การวางแผนหรือยุทธวิธีการจัดการทีมก็เพื่อช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาด และช่วยสร้างความสำเร็จให้กับทีมของตนเอง

หากใครเป็นแฟนที่คอยติดตามการถ่ายทอดสดฟุตบอลทางโทรทัศน์อยู่บ่อย ๆ จะสังเกตุได้ว่า ปัจจุบันจะมีการเก็บสถิติในการแข่งขันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนครั้งในการทำประตูของแต่ละทีม จำนวนการทำฟาวล์ จำนวนการผ่านบอลหรือโอกาสในการผ่านบอลสำเร็จ ฯลฯ ทุกอย่างต่างถูกเก็บไว้เป็นข้อมูลทางสถิติ และได้มีการแสดงข้อมูลให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ การเก็บข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์หรือนำไปต่อยอดอย่างไรได้บ้าง

ที่ผ่านมาข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ผู้สันทัดกรณีหรือคอมเมนเตเตอร์ (Commentator) มักจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์แนวทางการเล่นของแต่ละทีม และคาดการณ์ผลการแข่งขันในแต่ละแมตช์โดยอาศัยสถิติที่ผ่านมาเป็นพื้นฐานผนวกกับประสบการณ์ความชำนาญของแต่ละผู้สันทัดกรณีแต่ละคน  แต่ในปัจจุบันได้มีการออกแบบการจัดเก็บข้อมูลที่ละเอียด และหลากหลายมิติมากกว่าในอดีตที่ผ่านมาทำให้ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บมีขนาดใหญ่จนกลาย “บิ๊กดาต้า” (Big Data) ซึ่งในวงการฟุตบอลได้นำบิ๊กดาต้า เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์จุดแข็ง และจุดอ่อนของทีมตัวเองหรือคู่แข่ง แล้วยังสามารถวิเคราะห์นักฟุตบอลเป็นรายบุคคลเลยด้วยซ้ำ

โดยแต่ละทีมยังได้นำบิ๊กดาต้าเข้ามาใช้ในการวางแผนกลยุทธในแต่ละแมตซ์ซึ่งสามารถที่จะกำหนดรูปแบบของการฝึกซ้อมให้สอดคล้องกับวิธีการเล่นในแต่ละแมตซ์การแข่งขัน ตลอดจนการวางแนวทางการฝึกซ้อมในระยะยาว ทั้งในเรื่องของระบบการเล่น การเคลื่อนที่ การเล่นลูกนิ่ง และระดับความฟิตหรือความแข็งแรงของนักกีฬาภายในทีมเพื่อให้ประสบผลสำเร็จสูงที่สุด

เห็นได้ชัดจาก เจลีก (J League) ที่ก้าวมาเป็นมหาอำนาจของภูมิภาคนี้  ซึ่งได้ใช้ “วิทยาศาสตร์ทางข้อมูล”อย่างจริงจัง จนประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน แต่ถึงแม้ว่า ลีกอาชีพประเทศญี่ปุ่นจะมีมาตรฐานสูงในระดับต้น ๆ ของเอเชียหากนำไปเทียบกับสถิติตัวเลขของทีมฟุตบอลในบุนเดสลีก้าของเยอรมันแล้วยังเห็นถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

ซึ่งนักวิเคราะห์ข้อมูลของญี่ปุ่น ได้ทำการศึกษาข้อมูลพบว่า ในเกมฟุตบอลทีมที่มีอัตราการเคลื่อนที่ของนักฟุตบอลมากย่อมมีโอกาสสูงที่จะรับชัยชนะในการแข่งขัน และดูจากจำนวนการวิ่งเร็วในระยะสั้นเฉลี่ย (Number of Sprint) กับระยะทางในการเคลื่อนที่ของนักฟุตบอลในลีกอาชีพของเยอรมันสูงกว่ามาตรฐานเฉลี่ยทีมฟุตบอลในลีกอาชีพของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนที่ของนักฟุตบอลในลีกอาชีพของญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดอ่อนซึ่งด้อยกว่าของฟุตบอลเยอรมันอยู่ ผลการศึกษานี้ ได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนพัฒนาศักยภาพของนักฟุตบอลลีกญี่ปุ่นให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นและให้มีความทัดเทียมกับประเทศที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่างเยอรมัน

5950384102475

นับเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับนักการตลาดหรือนักธุรกิจในแง่การให้ความสำคัญ และนำ “วิทยาศาสตร์ทางข้อมูล” เข้ามาศึกษา และวิเคราะห์ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือองค์กรเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่มีอยู่หลากหลายทั้งใน และนอกประเทศได้อย่างทัดเทียม และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

5949264051311
บทความโดย ศรัณยพัชร์อติกันต์ธนา
ผู้จัดการแผนก Investment & Knowledge
ในเครือ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส

spot_img

Related Posts

รีไพร์ส ประเทศไทย ผลักดันความแข็งแกร่งการศึกษาไทยด้าน Digital Marketing

ล่าสุด คุณศุภฤกษ์ ตั้งเจริญศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีไพร์ส ประเทศไทย (Reprise Thailand)...

รู้ทันไลฟ์สไตล์ GEN Y ที่เปลี่ยนไป พร้อมกลยุทธ์เข้าถึงใจ GEN Y ในวันนี้

  ในปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรในช่วง GEN Y (พ.ศ. 2523 – 2543) โดยอายุอยู่ที่ประมาณ 25...

UM Thailand ต่อยอดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ‘UM Impact Day’ ปีที่ 6

กรุงเทพฯ 24 กรกฏาคม พ.ศ. 2566 –  UM Thailand ล่าสุดจัดกิจกรรมด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมประจำปีผ่านการรวบรวมขยะพลาสติกมาสร้างประโยชน์เพื่อลดจำนวนขยะที่เกิดขึ้นในพื้นที่สำนักงานพร้อมบริจาคทุนสนับสนุน บนความร่วมมือกับ Precious...

อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ชี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในไทย กลุ่มเป้าหมายที่น่าจับตามอง

อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ล่าสุดจัดงานสัมมนา Initiative Thought Leadership 2023 ในหัวข้อ “Growth Beyond Thai Audience” อัพเดทกลุ่มลูกค้าชาวจีนในไทยที่น่าจับตามอง...

เตือนภัย! เรื่องแอบอ้างชื่อบริษัท

สืบเนื่องจากการแอบอ้างผ่านช่องทางออนไลน์อ้างอิงเกี่ยวกับ บริษัท โอไรอ้อน เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีบัญชีผู้ใช้ Tiktok ได้แอบอ้างชื่อหรือข้อมูลของบริษัทฯ...