ถ้าพูดถึงเทรนในการนำข้อมูล (Data)มาวิเคราะห์และประกอบการตัดสินใจในด้านต่างๆในปัจจุบันถือว่ามีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากที่ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางข้อมูล (Data Science) ที่นำไปประยุกต์ใช้หลากหลายแขนงแล้วนั้น การพัฒนาต่อยอดในการทำการวิเคราะห์ชั้นสูงหรืองานที่มีความซับซ้อนดังเช่นการสร้างปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence)หรือการสอนให้คอมพิวเตอร์สามารถคิดคำนวนจนสามารถเรียนรู้สมการทางคณิตและสถิติที่ซับซ้อนมากจนกระทั่งสามารถแยกแยะความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและตัดสินใจหาผลลัพธ์ที่ถูกต้องที่สุดได้ที่นิยมเรียกกันในระดับสากลว่า แมชชีน เลินนิ่ง (Machine Learning)
อย่างไรก็ดีพื้นฐานความรู้ที่จะสร้างสรรค์เทคโนโลยีดังกล่าวนั้น นอกจากพื้นฐานทางภาษาคอมพิวเตอร์ (Computer programming language) ในระดับสูงแล้วความรู้ทางด้านสถิติถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากในการพัฒนาหรือต่อยอดเทคโนโลยีทางด้านนี้ ศาสตร์ทางด้านสถิติยังเป็นพื้นฐานสำคัญในวิทยาศาสตร์ทางข้อมูล ดังที่ได้กล่าวมาพอสังเขปในบทความก่อนหน้านี้
อาจจะมีน้อยคนที่รู้ว่าความรู้ทางด้านสถิตินี้ในประเทศไทยเองถ้านับจากปัจจุบันย้อนไปเป็นเวลาราวๆ 50 กว่าที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นความโชคดีของประชาชนชาวไทยที่มีพระมหากษัตริย์ผู้มีสายพระเนตรอันยาวไกลและทรงเล็งเห็นความสำคัญของวิชาสถิติในห้วงเวลาดังกล่าวนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นพิเศษ
เมื่อราว พ.ศ. 2503 ได้ทรงปรารภกับ นายเดวิด รอกกิเฟลเลอร์ ถึงเรื่องที่จะปรับปรุงการสถิติของชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศในเวลานั้น และในที่สุดได้มีการจัดทำโครงการเสนอรัฐบาล โดยต่อมารัฐบาลในสมัยนั้นได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาจัดตั้งสถาบันสอนวิชาการบริหารเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ โดยได้นำมติของที่ประชุมคณะกรรมการต่อคณะรัฐมนตรีว่าควรจะตั้ง สถาบันพัฒนาการบริหาร (Institute of Development Administration) โดยดำเนินการสอนในขั้นปริญญาโทและเอก การศึกษาฝึกอบรม และการวิจัย ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ NIDA (National Institute of Development Administration)
ในปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นสถาบันที่ให้ความรู้ทางด้านสถิติในระดับสูงของประเทศไทยในเวลานั้นตลอดจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียวจะเห็นว่าพระอัจฉริยะภาพที่ทรงเห็นความสำคัญของวิชาสถิติมาอย่างยาวนานโดยทรงมีความมุ่งพระทัยในการนำความรู้ทางสถิติเพื่อใช้ในการพัฒนาและประเมินโครงการในพระราชดำริอีกด้วย ดังพระบรมราโชวาทในงานพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 1 ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2519 ตอนหนึ่งความว่า
“…เดิมทีเดียวข้าพเจ้าตั้งข้อคิดเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไว้ว่าในการทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจต่าง ๆ จะต้องอาศัยใช้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นหลัก และจะต้องใช้นักสถิติที่มีความรู้ความสามารถชั้นสูงเป็นผู้ปฏิบัติ…”
โดยในโครงการพระราชดำริอาศัยการเก็บข้อมูลการดำเนินการและนำมาประมวลผลทางสถิติเพื่อพัฒนาหาสาระสำคัญของข้อมูล ผลลัพธ์และแนวทางในการพัฒนาโครงการพระราชดำริต่างๆ นับเป็นความโชคดีของประชาชนชาวไทย ที่พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีสายพระเนตรอันยาวไกล ที่ได้เล็งเห็นความรู้และความสำคัญในวิชาสถิติหรือการใช้วิทยาศาสตร์ทางข้อมูลมาอย่างยาวนั้นก่อนกว่าครึ่งศตวรรษก่อนที่วิชาแขนงนี้ได้รับความนิยมกันมากในปัจจุบันและในระดับสากลเลยทีเดียว
Sarunyapat Atikuntana
Analytics Manager – Data Scientist
IPG Mediabrands Thailand