เดวิส ร้อค ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Your Brain at Work กล่าวว่า เราสามารถโฟกัสกับงานโดยเฉลี่ยแล้วเพียงวันละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นหมายความว่าหากเราทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เราจะมี 2 ชั่วโมงที่ทำให้เราเสียเวลาไปเปล่า ๆ โดยไม่ได้ผลลัพธ์มากนัก เราสามารถนำ 2 ชั่วโมงนั้นมาทำสิ่งอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์มากกว่านั่งเช็กกล่องข้อความทางอีเมล หรือข้อความทางแอปพลิเคชันไลน์จนถึงเวลาเลิกงาน ปัญหาที่เราพบคือ การนั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือประชุมแบบต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะทำให้สูญเสียพลังงาน โดยเรามักจะพูดกับตัวเองว่า “วันนี้เรายุ่งมากเลย แต่เรายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที” ประโยคนี้เชื่อว่าเกิดขึ้นกับใครหลาย ๆ คน คำถามคือ เราจะแบ่งเวลา 8 ชั่วโมงในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร?
“It’s Not the Time You Spend but the Results You Produce”
ตามทฤษฎี เวลาที่สมองและไอเดียของมนุษย์ทำงานดีที่สุดคือ ช่วงเช้าที่สุดของวัน ดังนั้น 1 ชั่วโมงแรกที่เรามาถึงที่ทำงาน ขอให้เป็นช่วงเวลาที่เราใช้ในการคิดกลยุทธ์ ซึ่งผู้เขียนเรียกช่วงเวลานี้ว่า “Strategy Hour” ในช่วงเวลานี้เรายังไม่ควรเปิดคอมพิวเตอร์ และควรปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของโทรศัพท์มือถือ นำกระดาษมาหนึ่งแผ่น ดินสอหนึ่งแท่ง พร้อมกับกาแฟหนึ่งแก้ว แล้วหยิบงานที่ต้องใช้ไอเดีย เช่น พรีเซนเทชั่นที่ยังทำไม่เสร็จ นำมาทำในช่วงเวลานี้ ถ้าย้ายเข้ามุมเงียบ ๆ ได้จะดีมาก นอกจากนี้ผู้เขียนพบว่า การคิดเนื้อหาของงานและออกแบบพรีเซนเทชั่นบนกระดาษ กระดาษโน้ต หรือกระดาษโพสต์อิทก่อนทำบนคอมพิวเตอร์จะช่วยเรียบเรียงความคิดได้ดีขึ้น โดยให้คิดว่าหนึ่งกระดาษโพสต์อิทคือหนึ่งหน้าสไลด์ของพรีเซนเทชั่น สามารถหยิบยก โยกย้าย หรือเติมไอเดียใหม่ ๆ ได้เรื่อย ๆ แบบนี้ช่วยปรับการเล่าเรื่องได้เร็วและง่าย เห็นภาพรวมดีกว่าการทำบนโปรแกรมพรีเซนเทชั่นทีละหน้า ซึ่งอาจทำให้เนื้อหาไม่กระชับและวกวนไปมา
ทั้งนี้แนะนำว่าควรบังคับตัวเองให้โฟกัสในชั่วโมงแรกกับการคิดงานและเขียนงาน พยายามอยู่กับตัวเองและความคิดในช่วงนี้ เราจะยังไม่เช็กอีเมลจนกว่าจะผ่าน “Strategy Hour” ให้นึกไว้เสมอว่าถ้ามีงานด่วนจริง ๆ จะมีคนโทรเข้ามาหรือเดินมาหาเราเอง ตั้งเวลา “Strategy Hour” เอาไว้ในปฏิทินทุกวัน นั่นหมายความว่า ในหนึ่งสัปดาห์ เราจะมีเวลา 5 ชั่วโมงในการคิดไอเดียหรือเขียนพรีเซนเทชั่น รับรองว่าเราจะได้เนื้องานที่เป็นรูปธรรมและเนื้อหาที่มีคุณภาพมากขึ้น
ขอเสริมอีกนิด ถ้าอยากให้ตัวเองมีหนึ่งชั่วโมงแรกของทุกเช้าที่สดชื่น สมองแล่นและเต็มไปด้วยพลังงานบวกที่มีประสิทธิภาพ ขอให้ลองนอนเร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง และถ้าอยากให้ร่างกาย รวมทั้งจิตใจเราดี เราก็ควรให้สิ่งดี ๆ กับผู้อื่น ตามแนวคิด การให้แบบ Give and Take หมายถึง เราต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ
คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ผู้เขียนขอแค่หนึ่งชั่วโมงในเช้าแรกของวัน ที่คุณจะเปลี่ยนเวลาในช่วงเช้าธรรมดานี้ กลายเป็นหนึ่งชั่วโมงที่เปี่ยมไปด้วยไอเดียและความคิดที่มีคุณภาพ อย่าลืมว่าเวลาและพลังงานเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด โปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง
ขอให้ทุกคนมีชั่วโมงดี ๆ ในทุกวันนะคะ 🙂
นักเขียน
คุณดิว อินทปัญญา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายวางแผนกิจกรรม เอนเซมเบิล ประเทศไทย (Ensemble Thailand)
เกี่ยวกับเอนเซมเบิล
Ensemble (เอนเซมเบิล) คือ Creative Content Agency (ครีเอทีฟ คอนเทนต์ เอเยนซี่) ภายใต้ IPG Mediabrands Thailand (ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย) ซึ่งดำเนินธุรกิจทางด้านความคิดสร้างสรรค์สำหรับเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งการผลิตรายการโทรทัศน์ โดยมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการใช้เครื่องมือต่างๆ ในธุรกิจออนไลน์ เอนเซมเบิลทำงานร่วมกับทีมวางแผนกลยุทธ์และนวัตกรรม (Strategy & Innovation) เพื่อเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค ทำให้เอนเซมเบิลเป็นครีเอทีฟ คอนเทนต์ เอเยนซี่ที่มีประสิทธิภาพและโดดเด่น ทั้งยังจะเป็นครีเอทีฟ คอนเทนต์ เอเยนซี่รายแรกในประเทศไทยที่มีการผสานการใช้ Big Data (ฐานข้อมูลขนาดใหญ่), Insight (ข้อมูลเชิงลึก) และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับแบรนด์
เกี่ยวกับ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส
ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส (ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส) คือองค์กรระดับโลกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่ในเครือ Interpublic Group (NYSE: IPG) เราบริหารและดูแลการลงทุนทางด้านการสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้าที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 3,900 ล้านเหรียญสหรัฐใน130ประเทศทั่วโลก โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารรวมตัวกันมากกว่า 10,000 คน