บทความโดย กนกกาญจน์ ประจงแสงศรี / อรรณพ ดวงมณี
[email protected] / [email protected]
จากฉบับที่แล้วทีมงาน Strategy & Innovation ของ Initiative ได้เขียนถึงการเติบโตของตลาดการ “ซื้อขายของออนไลน์” ซึ่งในปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 240,000 ล้านบาท โดยเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจไปยังกลุ่มผู้บริโภคหรือ B2C ว่ามี เวปไซต์ไหนบ้างที่คนไทยให้ความนิยมเข้าไปช้อปปิ้งกันบ้าง ฉบับนี้จะมาขอขยายความต่อกับเวปไซต์การซื้อขายของออนไลน์ในกลุ่มผู้บริโภครายย่อยซึ่งได้แก่ กลุ่ม P2P และ C2C ว่าใน 2 กลุ่มนี้คนไทยให้ความนิยมในเวปไซต์ไหนกันบ้าง
ในกลุ่มแรก P2P ซึ่งจะเน้นการซื้อขายของมือสองหรือของใช้แล้วระหว่างบุคคลถึงบุคคลในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน 2016 จนถึงตุลาคม 2016 พบว่า Kaidee.com เป็นเวปไซต์ขายของสารพัดอย่างที่คนไทยให้ความนิยมสูงสุด ด้วยจำนวนผู้เข้าเวปไซต์เฉลี่ย 13.05 ล้านครั้งต่อเดือน โดยเดือนที่เข้าชมสูงสุดคือเดือนสิงหาคมที่มีคนเข้าไปในเวปไซต์ถึง 13.58 ล้านครั้ง ต่ำสุดคือเดือนเมษายนที่ 12.38 ล้านครั้ง ตามมาด้วย Pantipmarket.com ซึ่งเป็นเวปไซต์ขายของสารพัดชนิดเช่นกันด้วยจำนวนเฉลี่ยที่ 2.07 ล้านครั้งต่อเดือน โดยเดือนที่สูงสุดคือ กุมภาพันธ์มีจำนวนคนเข้าในเวปไซต์ดังกล่าว 2.29 ล้านครั้ง ต่ำสุดคือเดือนตุลาคมที่มีจำนวนคนเข้าเวปไซต์ 1.75 ล้านครั้ง อันดับ 3 คือ Novabizz.com เวปไซต์ซื้อขายบ้านมือสอง มีคนเข้าเวปไซต์เฉลี่ยที่ 7.3 แสนครั้งต่อเดือน โดยเดือนที่สูงสุดคือ สิงหาคม ด้วยจำนวน 7.9 แสนครั้ง และต่ำสุดในเดือนตุลาคมที่ 6.3 แสนครั้ง อันดับต่อมาคือ Gimyong.com เวปไซต์ที่ขายของมือสองสารพัดชนิดเน้นไปที่กลุ่มคนภาคใต้โดยเฉพาะในหาดใหญ่เป็นหลักมีจำนวนคนเข้าเวปไซต์เฉลี่ย 5.8 แสนครั้งต่อเดือน ซึ่งพบว่าคนเข้าเวปไซต์สูงสุดที่ 8.06 แสนคนในเดือนกรกฎาคม และต่ำสุดในเดือนตุลาคมที่ 4.4 แสนคน ต่อมาเป็นเวปไซต์ CM-Club.com เวปไซต์ที่ขายของมือสองทุกอย่างของกลุ่มคนภาคเหนือ มียอดเฉลี่ยเข้าเวปไซต์ต่อเดือนที่ 4.2 แสนครั้ง สูงสุดในเดือนกรกฎาคมที่ 4.6 แสนครั้งต่ำสุดที่ 3.7 แสนครั้งในเดือนสิงหาคม ส่วนเวปไซต์ขายของมือสองที่ได้รับความนิยมมายาวนานของคนทั่วประเทศคือ Thaisecondhand.com มีคนเข้าเฉลี่ยต่อเดือนที่ 3.7 แสนคน โดยผู้เข้าสูงสุดอยู่ที่ 4.4 แสนคนในเดือนกรกฎาคม และต่ำสุดคือ เดือนตุลาคมที่ผ่านมาด้วยยอดคนเข้าเวปไซต์ 2.7 แสนคน
ส่วนอีกกลุ่มคือ C2C ซึ่งเน้นการซื้อขายสินค้าใหม่โดยให้ผู้บริโภครายย่อยมาเป็นผู้เปิดร้านขายสินค้าให้กับผู้บริโภคผ่านเวปไซต์ ในกลุ่มนี้ Weloveshopping.com ได้รับความนิยมสูงสุดมีผู้เข้าเวปไซต์เฉลี่ย 6.62 ล้านครั้งต่อเดือน โดยผู้เข้าสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 8.02 ล้านครั้ง ต่ำสุดในเดือนตุลาคมที่ 5.84 ล้านครั้ง ตามมาด้วย Tarad.com ที่มียอดผู้เข้าเวปไซต์เฉลี่ย 4.54 ล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งผู้เข้าสูงสุดอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์เช่นกันที่ 6.91 ล้านครั้ง และต่ำสุดในเดือนเมษายนที่ 3.9 ล้านครั้ง ที่น่าสนใจคือ Pramool.com มีคนเข้าเวปไซต์ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.15 ล้านครั้งต่อเดือน โดยเข้าต่ำสุดในเดือนมีนาคมที่จำนวน 1.5 แสนครั้ง และเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนสูงสุดในเดือนกรกฎาคมที่ 2.1 ล้านครั้ง อันดับที่ 4 คือ TaradPlaza.com มียอดจำนวนผู้เข้าเวปไซต์ค่อนข้างคงที่ ยอดเฉลี่ยต่อเดือนคือ 1.1 ล้านครั้ง ต่ำสุดในเดือนเมษายนที่ 9.7 แสนครั้ง และสูงสุดในเดือนกรกฎาคมที่ 2.11 ล้านครั้ง อันดับต่อมาคือ ShopSpot.com ซึ่งเป็นเวปไซต์ที่เน้นการขายสินค้าแฟชั่น และเครื่องประดับผ่าน Application มีจำนวนคนเข้าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7 แสนครั้งต่อเดือน ซึ่งทำการเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนแล้วสามารถทำยอดการเข้าสูงสุดได้ทันทีที่ 1 ล้านครั้งต่อเดือน และต่ำสุดในเดือนตุลาคมที่ 4.3 แสนครั้ง และสุดท้ายคือ เวปไซต์ Blisby.com ซึ่งขายสินค้าประเภทงานประดิษฐ์ และ DIY ทำการเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนเช่นกัน โดยมียอดเฉลี่ยการเข้าเวปไซต์ค่อนข้างคงที่มียอดเฉลี่ยต่อเดือนที่ 3.3 แสนครั้ง มีจำนวนผู้เข้าชมเวปไซต์สูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ 3.9 แสนคน และต่ำสุดที่ 2.9 แสนคนในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
น่าจะเป็นข้อมูลที่ดีให้กับกลุ่มผู้ขายรายย่อยทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ที่ต้องการรู้ว่าช่องทางไหนที่เหมาะสมกับประเภทสินค้าของตนเอง เพื่อความสำเร็จบนโลกออนไลน์ที่มาแรงเช่นในปัจจุบัน
